การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศหนึ่งจะไม่มีผลคุ้มครองไปถึงประเทศอื่นที่ไม่ได้ยื่นจดทะเบียนด้วยเนื่องจาก
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศใดก็จะอยู่ภายใต้กฎหมายเครื่องหมายการค้าของประเทศนั้น
ซึ่งกฎหมายในประเทศหนึ่งจะไม่สามารถบังคับใช้ไปถึงประเทศอื่นด้วยตามหลักดินแดน
ดังนั้นจะเป็นที่พบเห็นอยู่เสมอว่าเครื่องหมายการค้าที่เหมือนกันนั้นจะได้รับการจดทะเบียนไว้ต่างเจ้าของกันในประเทศที่แตกต่างกัน
ดังนั้นเราสามารถที่จะคุ้มครองเครื่องหมายการค้าในหลาย ๆ
ประเทศได้อย่างไร
ผู้ขอจดทะเบียนมีทางเลือก ดังนี้
(1) สามารถยื่นคำจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในทุกประเทศที่ต้องการให้เครื่องหมายการค้าของตนได้รับความคุ้มครอง
ซึ่งจะต้องเตรียมคำขอประเทศละ 1 ชุด
(2) สามารถยื่นคำจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในกลุ่มประเทศ
การทำธุรกิจในปัจจุบันเป็นเรื่องปกติที่เจ้าของเครื่องหมายการค้า
จะทำการตลาดและจำหน่ายสินค้าไปยังทุกประเทศทั่วโลก
ดังนั้นการคุ้มครองเครื่องหมายการค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องการให้คุ้มครองไปยังทุกประเทศที่เข้าไปทำการตลาดและจำหน่ายสินค้าด้วย
การยื่นจดทะเบียนในลักษณะกลุ่มประเทศนี้จึงเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาเรื่องหลักกฎหมายตามหลักดินแดน
โดยมีกลุ่มประเทศ ดังนี้
- กลุ่มสหภาพยุโรป ( Community Trademark ) หรือ CTM
คุ้มครอง 27 ประเทศ
- กลุ่มประเทศสมาชิกองค์การทรัพย์สินทางปัญญาอาฟริกา ( The African
Intellectual Property Organization ) หรือ OAPI คุ้มครอง 16
ประเทศ
- กลุ่มประเทศสมาชิกองค์การทรัพย์สินทางปัญญาภูมิภาคอาฟริกา
(African
Regional Intellectual Property Organization ) หรือ ARIPO
คุ้มครอง 16 ประเทศ
- การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามระบบมาดริด (Madrid
System) มีประเทศสมาชิกตามความตกลงมาดริด
และพิธีสารมาดริด ซึ่งประกอบกันเป็นสหภาพมาดริด รวมทั้งสิ้น 84 ประเทศ (ปี 2552)
โดยมีหลักการ
คือยื่นคำขอจดทะเบียนในประเทศเดียวแต่สามารถระบุประเทศที่ต้องการได้รับความคุ้มครองได้หลายประเทศในประเทศที่เป็นสมาชิกของระบบมาดริด
(Madrid
System)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น